วิฬาร์ วิลาส การเดินทางของแมวในวิถีไทย


นิทรรศการ
“วิฬาร์ วิลาส การเดินทางของแมวในวิถีไทย”



ประวัติความเป็นมา

             แมว เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดเล็ก ลักษณะลำตัวค่อนข้างยาว บริเวณช่วงขาจะสั้น มีทั้งขนสั้นและขนยาวในบางสายพันธุ์ มีความเชื่อกันว่าแมวมีบรรพบุรุษตระกูลเดียวกับเสือซึ่งมีถิ่นกำเนิดมาจากสัตว์ป่าในทวีปแอฟริกา แมวมีชื่อในภาษาละตินหรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “เฟลิส คาตัส” (Felis Catus) ชื่อภาษาอังกฤษ คือ “แคท” (Cat) และชื่อที่ปรากฎบนอักษรภาพเฮียโรกลิฟฟิคของอียิปต์ คือ “เมียว” (Miu หรือ Mau)

 

 

แมวในอารยธรรมอียิปต์

            ในสมัยอียิปต์โบราณ มีการบูชาแมวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เพราะมีความเชื่อว่าแมวเป็นเทพเจ้าจำแลง มาเกิดเป็นเทพีบาสเทท (Bastet) ซึ่งเป็นเทพีแห่งความรัก ความอุดมสมบูรณ์ ช่วยต่อต้านสิ่งชั่วร้ายและความเจ็บป่วย โดยเทพีองค์นี้มีส่วนหัวเป็นแมว มีร่างกายเป็นสตรี ชาวอียิปต์จึงเชื่อกันว่าแมวช่วยทำให้อียิปต์ มีความเจริญรุ่งเรือง เพราะแมวสามารถช่วยควบคุมและกำจัดหนูซึ่งเป็นศัตรูที่ทำลายพืชผลทางการเกษตรและการแพร่เชื้อกาฬโรคซึ่งเป็นสาเหตุของโรคระบาดในสมัยนั้น ส่งผลให้อียิปต์มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์และพลเมืองไม่ต้องล้มตายลงด้วยกาฬโรคเหมือนกับประเทศอื่น ๆ จึงสามารถแผ่ขยายอาณาจักรออกไปได้เป็นเวลาหลายพันปี



The British Museum, Bastet, n.d..
ที่มา : https://www.britishmuseum.org/collection/object/Y_EA25565


รูปปั้นบรอนซ์ของ Bastet ผลิตในอียิปต์ยุคปลาย ช่วง 900 - 600 ก่อนคริสต์ศักราช


              นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายห้ามนำแมวออกนอกราชอาณาจักร ถ้าผู้ใดพบแมวนอกราชอาณาจักรจะต้องนำกลับคืนสู่อียิปต์ และหากผู้ใดทำการฆ่าหรือทำร้ายแมวจะถูกลงโทษถึงประหารชีวิต หรือเมื่อมีแมวตายในบ้านคนในครอบครัวจะต้องโกนขนคิ้วเพื่อเป็นการไว้ทุกข์ และต้องนำศพแมวที่ตายนั้นไปทำเป็นมัมมี่บรรจุ ลงในหีบศพรูปตัวแมว และฝังในสุสานของแมวเป็นการเฉพาะ บ้างก็มีการทำหุ่นโลหะรูปแมวฝังลงไปด้วย บางครั้งก็มีการสร้างวิหารขนาดใหญ่ให้แมวด้วยเช่นกัน ซึ่งการทำมัมมี่แมวของชาวอียิปต์ถือว่าเป็นเครื่องบูชาทางศาสนา

 

 

The British Museum, Animal Mummy; Mummy-wrapping, n.d..
ที่มา
: https://www.britishmuseum.org/collection/object/Y_EA37348

 

 

แมวในอารยธรรมโรมัน

              ชาวกรีกได้ลักลอบนำแมวออกจากอียิปต์ จำนวน 6 คู่ หลังจากนั้นมีการขยายพันธุ์และขายต่อไปยังกลุ่มชาวโรมัน โดยชาวโรมันมองว่า “แมว” เป็นสัตว์สัญลักษณ์แห่งเสรีภาพและอิสรภาพ สะท้อนได้จาก เทพเจ้าลิเบอร์ตัส (Libertas) เทพเจ้าแห่งเสรีภาพที่มักจำแลงกายเป็นแมว ที่สำคัญในกองทัพทหารจักรวรรดิโรมันมักจะนำแมวเข้าประจำการในป้อมปราการด้วย เพื่อช่วยในการจับหนูที่กัดกินอาหารในคลังและหนัง ซึ่งเป็นชุดเกราะและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เสียหาย ดังนั้นแมวจึงถูกยกย่องสรรเสริญและกลายเป็น มิตรคู่กายของทหาร


ภาพโมเสกแบบโรมัน ช่วงปลายศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช

Raddato, Carole, Cat with a Quail Mosaic, House of the Faun, 2019.
ที่มา
: https://www.worldhistory.org/image/10663/cat-with-a-quail-mosaic-house-of-the-faun/#google_vignette

 

 

แมวยุคกลางในทวีปยุโรป

              ชาวยุโรปมีความเชื่อว่า “แมว” เป็นตัวแทนของความชั่วร้ายต่าง ๆ และเป็นสัตว์บริวารของพ่อมดและแม่มดโดยเฉพาะแมวดำ หากชาวยุโรปคนใดเลี้ยงแมวจะถูกประณาม อีกทั้งถ้าเป็นคนแก่เลี้ยงแมวด้วยแล้วจะต้องโดนจับเผาทั้งเป็นไม่ว่าจะเป็นคนหรือแมว ซึ่งช่วงนี้เองที่ทำให้เชื้อกาฬโรคระบาดหนักในยุโรปสันนิษฐานว่าเป็นเพราะมีหนูแพร่พันธุ์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่แมวกลับลดจำนวนลง

ภาพวาดสีน้ำมัน The Witches’ Cove โดย Jan Mandijn สมัยศตวรรษที่ 16
แสดงภาพนิมิตของชาวบอสเชียเกี่ยวกับแมวและการการเฉลิมฉลองของแม่มด

Hamer, Suzan, The Witches' Cove, 2018.
ที่มา
: https://arthur.io/art/follower-of-jan-mandijn/the-witches-cove

 

 

แมวในประเทศจีน

              ประเทศจีนพบแมวครั้งแรกในราชสำนักจากการถูกนำไปเป็นของกำนัลแด่จักรพรรดิ ซึ่งต่อมาขุนนาง พระ และสามัญชนจึงได้รับอนุญาตให้เลี้ยงแมวได้ โดยเฉพาะในสมัยราชวงศ์ถังมีพิธีเซ่นไหว้เทพเจ้าแมว ซึ่งจัดขึ้นในช่วงฤดูทำนา เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติ พิธีดังกล่าวมาจากการที่ประชาชนต้องการขอบคุณ เหล่าแมวที่ช่วยกำจัดหนูนาซึ่งเป็นตัวทำลายพืชผลทางการเกษตร โดยพิธีดังกล่าวได้มีการบันทึกในพงศาวดารสมัยราชวงศ์ถังฉบับเก่าไว้ว่า
              “เมื่อถึงทุกสิ้นปี การทำนาแล้วเสร็จ ฮ่องเต้จะจัดพิธีเซ่นไหว้เทพเจ้า 100 องค์ ในเขตชานเมืองทางใต้ของเมืองหลวง ซึ่งเทพเจ้าแมวก็เป็นหนึ่งในนั้น อาหารที่จะนำมาบูชาแมวเป็นชุดเล็ก คือ แกะและหมูอย่างละหนึ่ง”
              นอกจากนี้ ชาวบ้านในสมัยราชวงศ์ถังยังให้เกียรติแมว โดยหากผู้ใดต้องการเลี้ยงแมวจะต้องได้รับคำมั่นสัญญาจากเจ้าของแมวตัวเมียเสียก่อน แล้วรอให้ลูกแมวคลอด หรือหากจะรับแมวแม่ลูกอ่อนออกไป ก็ต้องส่งสินสอดให้คล้ายกับการแต่งงานของคน ส่วนในสมัยราชวงศ์ซ่งแมวถูกยกย่องว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์และเป็นสัตว์สัญลักษณ์แห่งความโชคดีอีกด้วย

ภาพวาดแมวชุด “Tang Yuan Playing in Spring” ของจักรพรรดิเซวียนเต๋อ แห่งราชวงศ์หมิง


ที่มา 
: https://roll.sohu.com/a/529311459_120217020

 

 

แมวในประเทศญี่ปุ่น

              แมวถูกนำไปเลี้ยงในประเทศญี่ปุ่นโดยชาวจีนซึ่งมากับเรือสินค้าจากประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ถัง ชาวญี่ปุ่นในสมัยโบราณนิยมเลี้ยงแมวเพื่อปกป้องคลังอาหารเช่นเดียวกับอียิปต์ อีกทั้งหนูยังทำลายกัดกินพระไตรปิฎกที่จัดเก็บในวัด พระจึงต้องอาศัยแมวเป็นตัวช่วยในการจับหนู แมวในประเทศญี่ปุ่นจึงถูกยกย่องว่าเป็นผู้ปกป้องหนังสือหายาก และในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมองว่าแมวเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี ซึ่งจะเห็นได้จากเครื่องรางรูปแมวกวัก ชื่อว่า “มาเนกิ เนะโกะ (Maneki Neko)”

Nyan Nyan Ji ศาลเจ้าแมว ณ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น


แมวกวักในประเทศญี่ปุ่น ชื่อว่า มาเนกิเนะโกะ (Maneki Neko)

บ้านและสวน Pets, Nyan Nyan Ji, 2565.
ที่มา : https://www.facebook.com/BaanlaesuanPets/posts/pfbid056ix5fzRYEyPoxSd9Sw9t27v7nUcscKFKzJhsFJFwuP8V7sfgRxpmrknN8GgUb1il
Japan National Tourism Organization, มาเนกิเนะโกะ (Maneki Neko), ม.ป.ป..
ที่มา : https://www.jnto.or.th/newsletter/maneki-neko/

 

 

แมวในประเทศไทย

              ประเทศไทยมีการเลี้ยงแมวมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เพื่อใช้จับหนูที่ทำลายพืชผลทางการเกษตรเช่นเดียวกับประเทศอียิปต์และญี่ปุ่น เดิมเรียกแมวว่า “ชมา” แต่ไม่เป็นที่นิยม ต่อมาในสมัยอยุธยาแมวถือว่าเป็นสัตว์ชั้นสูงที่ได้รับความนิยมในหมู่ขุนนาง เพราะมีความเชื่อว่าหากเลี้ยงแมวที่มีลักษณะมงคลจะทำให้มียศถาบรรดาศักดิ์ที่สูงขึ้น ดังปรากฎหลักฐานเป็นสมุดไทยบันทึกตำราแมวดีและไม่ดี
              ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แมวได้ถูกเลี้ยงเฉพาะในวัง ประชาชนไม่มีสิทธิ์เลี้ยงแมวได้โดยเฉพาะพันธุ์ขาวมณีและวิเชียรมาศ ต่อมาในปี พ.ศ. 2427 พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานแมววิเชียรมาศ ให้กับนายโอเวน กูลด์ (Mr. Owen Gould) กงสุลอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อเป็นทูตสันถวไมตรี ซึ่งได้นำไปให้แก่น้องสาวที่ประเทศอังกฤษอีกทอดหนึ่ง หลังจากนั้นแมวคู่นี้ได้ถูกส่งเข้าประกวดและได้รับรางวัลชนะเลิศในงาน The Crystal Palace ที่ประเทศอังกฤษ จากการประกวดในครั้งนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ชาวอังกฤษนิยมหันมาเลี้ยงแมวไทยกันมากขึ้น จนได้จัดตั้ง The Siamese Cat Clubs ในปี พ.ศ. 2443 และ The Siamese Cat Society of the British Empire ในปี พ.ศ. 2471 ทำให้แมววิเชียรมาศจดทะเบียนเป็นสัตว์พันธุ์แท้ของโลกโดยใช้ชื่อว่า “ไซมิสแคท (Siamese Cat)” แมวไทยจึงมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศอังกฤษ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าแมวไทยสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักแก่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จึงได้ทรงพระราชทานแมวไทยให้กับหลาย ๆ ประเทศ จนแมวไทยและประเทศไทยกลายเป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงไปทั่วโลก

เจ้าฟ้าชายซาเรวิช อะเล็กเซ (Tsarevich Alexei) มกุฎราชกุมารแห่งจักรวรรดิรัสเซีย พระราชโอรสของพระเจ้าซาร์นิโครัสที่ 2 ทรงอุ้มแมวพันธุ์วิเชียรมาศ

เจ้าฟ้าหญิงวิกตอเรีย พระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 แห่งสหราชอาณาจักรกับแมวพันธุ์วิเชียรมาศ

Cats of Thailand, แมววิเชียรมาศ, ม.ป.ป..
ที่มา
 :  https://catsofthailand.wordpress.com

              ในปี พ.ศ. 2502 นางยีน จอห์นสัน (Mrs.Jean Johnson) ได้เดินทางมาประเทศไทย และได้นำแมวโคราช (แมวสีสวาด แมวมาเลศ หรือแมวดอกเลา) กลับไปเลี้ยงที่สหรัฐอเมริกา 2 ตัว ชื่อ “นารา” และ “ดารา” จึงมีการก่อตั้งสมาคมผู้เลี้ยงแมวไทยพันธุ์โคราชขึ้นในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ. 2508 ในเวลาต่อมาได้มีการจดทะเบียนแมวโคราชเป็นสัตว์ประจำชาติไทยในปี พ.ศ. 2552
 

แมวพันธุ์วิเชียรมาศ

แมวโคราช (แมวสีสวาด แมวมาเลศ
หรือแมวดอกเลา)

ALTV All Around, แมววิเชียรมาศ, 2564.
ที่มา : 
https://www.inu-manga.com/manga/in-this-life-i-will-be-the-lord/ 
ข่าวสด, สวัสดี สีสวาด, 2563. 
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_493446

              หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จสวรรคต แมวไทยที่มีการเลี้ยงอยู่ในวังได้ถูกลืมและถูกมองข้ามความสำคัญไป เป็นสาเหตุทำให้แมวถูกทิ้งตามวัดและสถานที่ต่าง ๆ ส่งผลให้แมว เกิดการผสมข้ามสายพันธุ์ แมวไทยสายพันธุ์แท้จึงหายสาบสูญและหายากในปัจจุบัน

แมวจรจัดซึ่งเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์

Tnews, คนใจร้ายนำน้องแมวมาปล่อยวัด, 2564.
ที่มา
 : https://www.tnews.co.th/social/552547

 

 

ความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณีไทยที่เกี่ยวข้องกับแมว

              แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน มีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของคนในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นการเกิด การแต่งงาน การขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น ความสัมพันธ์ระหว่างแมวกับความเชื่อของคนไทย มีทั้งเชื่อว่าแมวเป็นสัตว์มงคล เลี้ยงไว้แล้วจะให้คุณแก่เจ้าของ เช่น โชคลาภ ความเจริญในยศถาบรรดาศักดิ์ และความเชื่อเรื่องแมวเป็นสัตว์ไม่มงคล เลี้ยงไว้แล้วจะทำให้เกิดโทษแก่ผู้เลี้ยง เป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย

          แมวในประเพณีการเกิด

              คนไทยจะใช้แมวคราว ร่วมกับฟักและหินบดยาในพิธีลงอู่หรือลงเปลของเด็กทารก โดยในพิธีกรรม ต้องอุ้มเด็กทารกลงนอนในเปลพร้อมกับของ 3 สิ่งดังกล่าว จากนั้นไกวเปล 3 ครั้ง ขณะที่ไกวเปลนั้นผู้ใหญ่จะกล่าวคำให้พรแก่เด็กว่า “ให้เย็นเหมือนฟัก ให้หนักเหมือนแฟง ให้อยู่เรือนเหมือนก้อนเส้า เฝ้าเรือนเหมือนแมวคราว” ซึ่งของแต่ละชนิดมีความหมายต่างกันจนเป็นที่มาของพิธีกรรม โดยหินบดยา หมายถึง ให้ใจคอหนักแน่น ฟัก หมายถึง ให้ใจเย็นเป็นฟัก และแมวคราวเปรียบเหมือนแมวที่นอนอยู่ติดบ้าน ไม่เที่ยวเตร่ และหากเป็นเด็กผู้ชายจะให้มีสมุดและดินสอร่วมด้วยโดยถือว่าเมื่อเด็กโตขึ้นจะได้เป็นคนรู้หลักนักปราชญ์ ส่วนเด็กผู้หญิงให้มีเข็มและด้ายร่วมด้วยโดยถือว่าเมื่อโตขึ้นจะได้เก่งในเรื่องเย็บปักถักร้อยและงานบ้านงานเรือน
              “แมวคราว” คือ แมวตัวผู้ขนาดเขื่อง เป็นแมวผู้ใหญ่มีหนวดเครา เปรียบเสมือนคนที่บรรลุนิติภาวะจึงเป็นแมวไม่ทิ้งถิ่น มีบทบาททั้งในประเพณีการเกิดและการแต่งงาน ในสมัยก่อนมักนิยมใช้แมวที่มีชีวิตจริง ๆ ตัวสีขาว แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนเป็นตุ๊กตาหรือรูปปั้นเซรามิกแทน โดยจะเลือกตัวที่นอนขด ให้มีลักษณะคล้ายกับแมวที่นอนเฝ้าบ้าน


แมวคราว

KiNdCONNEXT, ขาวมณี, 2564.
ที่มา : https://kindconnext.com/mankind/khaomanee/

          แมวในประเพณีแต่งงาน

              ประเพณีการแต่งงานของคนไทยมักจะมีพานส่งตัวเข้าหอ ซึ่งประกอบด้วย แมวคราวนอนหวด 1 ตัว ไก่ขาว 1 คู่ ฟักเขียว 1 ลูก ครกบดยา 1 ชุด ถุงเงินถุงทอง ขันน้ำใบเล็ก 1 ใบ และไม้เท้า ทุกสิ่งล้วนมีความหมาย เพื่อความเป็นศุภมงคลแก่ชีวิตคู่ และในพิธี “การปูที่นอนและส่งตัวเจ้าสาว” โดยการเชิญคู่สามีภรรยาสูงอายุที่เป็นคู่แต่งงานที่มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิตสมรสเป็นคู่ปูที่นอน เรียกว่า “ฤกษ์เรียงหมอน” เพื่อเป็นเคล็ดตามความเชื่อให้คู่แต่งงานใหม่ มีชีวิตครอบครัวที่มีความสุขเช่นเดียวกับคู่สามีภรรยาที่ได้รับเชิญมา ในการทำพิธีนี้ให้นำหินบดยา ฟักเขียว ถุงใส่ถั่วงา และข้าวเปลือกวางลงบนที่นอนก่อน พร้อมทั้งอุ้มแมวตัวผู้สีขาววางลงบนฟูก แล้วกล่าวคำให้พรเป็นสำนวนว่า “ใจเย็นเหมือนฟัก ใจหนักเหมือนหิน อยู่กินกันจนแก่จนเฒ่า ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนเหมือนแมวคราว”

พานส่งตัวเข้าหอ


แมวในประเพณีการแต่งงาน

ยาเล็ก, พานส่งตัวเข้าหอ, 2564.
ที่มา : https://www.lekphanumas.com/2021/02/blog-post_65.html
เลขา, เกิดหรือแต่งงานก็ต้องมีแมว, 2561.
ที่มา : https://www.readhowl.com/2018/04/04/cat-marry-birth/

         
พิธีแห่นางแมว

              พิธีแห่นางแมว เป็นพิธีที่ทำกันเฉพาะเมื่อยามฝนแล้งไม่ตกตามฤดูกาล โดยนำแมวเพศเมียพันธุ์สีสวาด 1 - 3 ตัว ซึ่งแมวพันธุ์นี้จะมีขนสีเทาเข้มคล้ายกับสีของเมฆฝน พร้อมกับดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ ใส่ในกระบุงหรือชะลอม ก่อนที่จะนำนางแมวเข้ากระบุง คนที่เป็นผู้อาวุโสที่สุดในหมู่บ้านจะพูดกับนางแมวว่า “นางแมวเอย ขอฟ้าขอฝน ให้ตกลงมาด้วยนะ” จากนั้นสอดไม้คานให้สองคนหามเป็นขบวนแห่วนไปทุกครัวเรือนในหมู่บ้าน เมื่อผ่านบ้านใดเจ้าของบ้านก็จะนำน้ำมาสาดใส่แมวเพื่อให้แมวส่งเสียงร้องออกมา โดยเชื่อว่าการที่แมวร้องนั้นเป็นสัญญาณที่ฝนจะตกนั่นเอง ทั้งนี้การแห่นางแมวจะมีการร้องเพลงประกอบในขบวนว่า
              “นางแมวเอย มาร้องแจ้วแจ้ว นางแมวขอไก่ ขอไม่ได้ ร้องไห้ขอฝน ขอน้ำมนต์รดแมวข้าที มีแก้วนัยน์ตา ออกมาเดือนหก ฝนตกทุกที มาปีนี้ไม่มีฝนเลย พ่อตาลูกเขย นอนก่ายหน้าผาก พ่อหม้ายลูกมาก มันยากเพราะข้าว คนหนุ่มคนสาว คนเฒ่าหัวห้อย พาเด็กน้อย มาเล่นนางแมว มาร้องแจ้วฝนก็เทลงมา ฝนก็เทลงมา” ปัจจุบันพิธีแห่นางแมว ชาวบ้านมักใช้ตุ๊กตาแมวแทนการใช้แมวจริง เพื่อหลีกเลี่ยงการทรมานสัตว์



 

พิธีแห่นางแมว

เลขา, พิธีแห่นางแมว, 2561
ที่มา : https://www.readhowl.com/2018/04/04/cat-rain/

 

 

แมวในราชสำนัก

              พระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร เป็นหนึ่งในพิธีเกี่ยวเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธี ดังกล่าว คือ การสมโภชปราสาทราชมณเฑียร สถานที่ประทับดั้งเดิมของพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรี หากเทียบกับประเพณีชาวบ้านก็เปรียบได้กับการขึ้นบ้านใหม่ เป็นพระราชพิธีที่ต้องมีการนำแมวเข้ามาในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมีความหมายเพื่อให้เกิดความโชคดีมีลาภ ให้อยู่เย็นเป็นสุข ตลอดจนขับไล่ภูตผีปีศาจหรือ สิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ และตามความเชื่อดั้งเดิมที่กล่าวว่า แมวมีเก้าชีวิต ซึ่งหมายถึง ความยั่งยืนสถาพร


แมวในพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7


แมวในพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียร ในสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

 ผู้จัดการออนไลน์, แมว-ไก่ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก, 2562.
ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9620000044597
สำนักพระราชวัง, บรมราชาภิเษก : แมวไทย "วิเชียรมาศ", 2562.
ที่มา : https://www.bbc.com/thai/thailand-48166415

แมวทรงเลี้ยง

แมวทรงเลี้ยงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร


คุณติโต (แมวทรงเลี้ยงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร)

Kessel, Dmitri, Roi Du Siam, 2492.
ที่มา
 : https://lifestyle.campus-star.com/knowledge/37174.html

แมวทรงเลี้ยงในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี


คุณใบตอง (แมวทรงเลี้ยงในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี)

ที่มา : https://www.nanmeebooks.com/product/live-in-sra-pathum-palace-1/2112294429


แมวทรงเลี้ยงในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์


คุณ Tomcat


คุณ Lucille (ลูซีล)

มติชนออนไลน์, Tomcat, 2563.
ที่มา : https://www.matichon.co.th/court-news/news_2216200
มติชนออนไลน์, Lucille, 2564.
ที่มา : https://www.matichon.co.th/court-news/news_2795889 

 

 

แมวมงคลของไทย

              สมุดข่อยโบราณ เรื่อง ตำราดูลักษณะแมวของสมเด็จพระพุฒาจารย์พุทธสรมหาเถระ (นวม พุทฺธสโร) วัดอนงคาราม เป็นตำราที่บันทึกลักษณะของแมวไทยพันธุ์โบราณ ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์พุทธสรมหาเถระ (นวม พุทฺธสโร) ท่านให้ความสนใจและสั่งให้คัดลอกรวบรวมไว้ในสมุดข่อย ในตำรากล่าวถึงลักษณะของแมวดีและแมวร้าย 23 ชนิด แบ่งเป็นแมวดี 17 ชนิด และแมวร้าย 6 ชนิด เนื้อหาแต่งด้วยโคลงสี่สุภาพ

แมวดี 17 ชนิด

  นิลรัตน์
มีสีดำทั้งตัว รวมถึงเล็บ ลิ้น ฟัน ดวงตา หางยาวตวัดได้จนถึงหัว
    วิลาศ

มีลำตัวสีขาวจากคอไปตลอดท้อง จากสองหูไปจนถึงหางและขาทั้งสี่มีสีขาว และลำตัวสีดำอยู่บริเวณข้างและหน้า ดวงตาสีเขียว

  ศุภลักษณ์หรือทองแดง

มีสีน้ำตาลเข้มเหมือนสีทองแดงเสมอกันทั้งตัว ตามีสีเหลืองเป็นประกาย เลี้ยงไว้แล้วจะแคล้วคลาดจากภยันตราย

    เก้าแต้ม

เป็นแมวสีขาว มีสีดำแต้ม 9 แห่ง คือ บริเวณหัว คอ โคนขาหน้าและโคนขาหลังทั้ง 4 ข้าง ไหล่ทั้ง 2 ข้าง และโคนหาง

  มาเลศหรือดอกเลา

มีขนเรียบสีดอกเลา โคนขนจะมีสีขุ่น ๆ เทา ในขณะที่ส่วนปลายมีสีเงิน ตาเป็นประกายคล้ายหยดน้ำค้างบนใบบัว


    แซมเศวต

มีขนสีดำแซมขาว มีขนบางและสั้น รูปร่างเพรียว มีนัยน์ตาดั่งหิ่งห้อย 

  รัตนกัมพล

มีขนสีขาวดั่งหอยสังข์ รอบตัวตรง ส่วนอกมีลักษณะคล้ายสายคาดสีดำ ตาสีทอง 

    วิเชียรมาส

มีขนสั้นแน่นสีขาว มีแต้มสีดำ 8 แห่ง คือ ปาก หาง หูทั้งสองข้าง และเท้าทั้งสี่ข้าง

  นิลจักร

มีลำตัวดำสนิทเหมือนปีกกา คอมีขนสีขาวอยู่รอบเหมือนกับปลอกคอ 

    มุลิลา

มีขนสีดำเรียบเป็นมัน หูสองข้างมีสีขาว ตามีสีเหลือง เหมือนดอกเบญจมาศ 

  กรอบแว่นหรืออานม้า

มีขนสีขาวทั้งตัว ยกเว้นบริเวณขอบตาทั้งสองข้างเป็นสีดำ เหมือนกรอบแว่นตา และกลางหลังจะมีวงสีดำเหมือนอานม้า 

    ปัดเศวตหรือปัดตลอด

มีขนสีดำเป็นมันราบเรียบ ยกเว้นปลายจมูกจนถึงปลายหางมีสีขาว ดวงตามีสีเหลืองคล้ายพลอย

  กระจอก

ไม่กระจอกเหมือนชื่อ มีลำตัวกลมมีสีดำ รอบปากมีสีขาว ตาสีเหลือง 

    สิงหเสพย์

มีลำตัวสีดำ แต่มีสีขาวอยู่บริเวณรอบริมฝีปาก จมูก และรอบคอนัยน์ตาสีเหลืองทอง

  การเวก

มีลำตัวสีดำ ตาเป็นประกายสีทอง จมูกสีขาว 

    จตุบท

มีลำตัวสีดำ เท้าทั้งสี่ข้างมีสีขาว ตาสีเหลืองเหมือนดอกโสน 

  โกญจา

มีสีดำละเอียด นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม ปากและหางเรียว ท่าทางการเดินสง่าเหมือนสิงโต 


       

ที่มา : ตำราดูลักษณะแมว.  กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พิฆเนศ, 2518. (ที่ระลึกในการพระราชทานเพลิงศพจ่าเผ่นผยองยิ่ง (ชุ่ม สุวรรณจินดา) ณ เมรุวัดมกุฎกษัตริยาราม วันพุธที่ 25 มิถุนายน 2518)

 

 

ตำราแมว

 

 

วันสำคัญที่เกี่ยวกับแมว

วันแมวญี่ปุ่น (Neko No Hi)
              “วันแมวญี่ปุ่น” เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 โดยสมาคม Japan Pet Food ด้วยเสียงโหวตสนับสนุนจากทาสแมวกว่า 9,000 คน ตกลงเลือกวันที่ 22 เดือน 2 จากการออกเสียงที่เลียนแบบเสียงร้องของแมวว่า “เนียะ เนียะ เนียะ” ซึ่งออกเสียงคล้ายกับคำว่า “นิ” ที่แปลว่า 2 ในภาษาญี่ปุ่น จึงทำให้วันที่ 22 กุมภาพันธ์ เป็นวันแมวญี่ปุ่น กิจกรรมในวันนี้ เช่น การโพสต์รูปแมวหรือวีดีโอเกี่ยวกับแมว การจัดกิจกรรมเกี่ยวกับแมว การประกวดแต่งตัวคอสเพลย์แมว  


พนักงานรถไฟวาดรูปแมว เนียบโปริ (Nyappori) คาแรกเตอร์แมวของสถานี Nippori เมืองอาราคาวะ จังหวัดโตเกียว บนพื้นกระเบื้องสถานีเนื่องในวันแมวญี่ปุ่น

Moshi Moshi Nippon, Cat Day 2021, 2021.
ที่มา : https://www.moshimoshi-nippon.jp/399394
Tonari ญี่ปุ่น, เนียบโปริ (Nyappori), 2566.
ที่มา
 : https://www.facebook.com/tonarijapanth/posts/pfbid036LahbMAhhgkwo4WFzurGVGnNiGCmAjmHEZRjrby3orCGSJ5uTGBadwr51uJkzTYml
Siy, Sherilyn, National Cat Day, 2022.
ที่มา : https://en.japantravel.com/news/national-cat-day/68647




วันแมววิเชียรมาศ (National Siamese Cat Day)
              วันที่ 6 เมษายน ถือเป็นวันแมววิเชียรมาศ ก่อตั้งขึ้นโดย เจซ ชูเมกเกอร์-แกลโลเวย์ (Jace Shoemaker-Galloway) นักเขียนและคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ เมื่อปี พ.ศ. 2557 เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความเป็นอยู่ของแมววิเชียรมาศที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงในประเทศต่าง ๆ และสนับสนุนให้คน รับเลี้ยงแมววิเชียรมาศที่เคยมีชื่อเสียงในอดีต

ที่มา : https://thatsmeow.com/cat-day/
   
วันกอดแมวสากล (National Hug Your Cat Day)
              วันที่ 4 มิถุนายน เป็นวันกอดแมวสากล โดย Marisa D’Vari (มาริสา ดีวาริ) นักเขียนและโปรดิวเซอร์รายการโทรทัศน์ชาวอเมริกัน เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ “มีมี” แมวพันธุ์เปอร์เซียที่เสียชีวิตไป ต่อมาจึงชักชวนให้คนที่เลี้ยงแมวหันมาแสดงความรักแก่แมว จนได้รับความนิยมในหมู่ของคนรักแมวในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ จนกลายเป็นวันกอดแมวสากล

ที่มา : https://newsd.in/national-hug-your-cat-day-u-s/
   
วันลูกแมวแห่งชาติ (National Kitten Day)
              วันที่ 10 กรกฎาคม เป็นวันลูกแมวแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ริเริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2555 โดย คอลลีน เพจ (Colleen Paige) ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ (Pet & Family Lifestyle Expert) เพื่อช่วยเหลือลูกแมวจรจัด ไร้บ้าน ให้ได้รับการดูแล ส่งเสริมการรับเลี้ยงและดูแลสุขภาพของลูกแมว ลดปริมาณแมวจรจัด รวมทั้งส่งเสริมให้เจ้าของมีความรับผิดชอบ

ที่มา : https://thatsmeow.com/cat-day/
   
วันแมวสากล (International Cat Day)
              วันที่ 8 สิงหาคม เป็นวันแมวสากล ริเริ่มโดยกองทุนระหว่างประเทศเพื่อสวัสดิการสัตว์ (International Fund for Animal Welfare - IFAW ) เมื่อปี พ.ศ. 2545 เพื่อประกาศให้เป็นวันเฉลิมฉลอง ชื่นชมแมว และตระหนักถึงความสำคัญของการเลี้ยงแมวที่มีส่วนช่วยบรรเทาความเครียด ลดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งในบางประเทศเรียกว่า วันแมวโลก (World Cat Day)

ที่มา : https://thatsmeow.com/cat-day/
   
วันยกย่องแมวดำ (Black Cat Appreciation Day)
              วันที่ 17 สิงหาคม เป็นวันยกย่องแมวดำ โดย เวย์น เอช มอร์ริส (Wayne H. Morris) ในปี พ.ศ. 2554 เพื่อระลึกถึงน้องสาวและ ซินแบด (Sinbad) แมวดำอายุ 20 ปี ของเธอที่เสียชีวิตในปีเดียวกัน ถือเป็นหนึ่งในวันสำคัญของสหรัฐอเมริกา โดยตามสถานสงเคราะห์สัตว์หลายแห่ง หรือบ้านพักพิงสัตว์ต่าง ๆ จะรณรงค์ให้รับแมวดำไปเลี้ยง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนได้ตระหนักถึงคุณค่าของแมวดำ และเป็นการปรับทัศนคติและความเชื่อเกี่ยวกับแมวดำ

ที่มา : https://thatsmeow.com/cat-day/
   
วันยกย่องแมวส้ม (Ginger Cat Appreciation Day)
              วันที่ 1 กันยายน เป็นวันยกย่องแมวส้ม เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2557 โดย คริส รอย (Chris Roy) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ชาวอเมริกันที่ผันตัวเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสัตว์ เพื่อระลึกถึง ดูเบิร์ต (Doobert) แมวส้มที่เสียชีวิตไป และเพื่อให้คนได้เห็นความสำคัญของแมวสีส้มที่มักถูกทอดทิ้งเป็นอันดับที่สอง รองจาก “แมวดำ”

ที่มา : https://worldtimeshindi.com/ginger-cat-appreciation-day-september-1-2022-history
   
วันแมวดำ (National Black Cat Day)
              วันที่ 27 ตุลาคม เป็นวันแมวดำ โดยเพิ่มขึ้นมาจากวันยกย่องแมวดำ (Black Cat Appreciation Day) เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2554 โดย Cats Protection องค์กรการกุศลในสหราชอาณาจักรที่อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือแมวจรจัด”


ที่มา : https://twitter.com/burystrays/status/1453327447580151812
   
วันแมวแห่งชาติ (National Cat Day)
              วันที่ 29 ตุลาคม เป็นวันแมวแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Cat Day) โดย คอลลีน เพจ (Colleen Paige) ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ (Pet & Family Lifestyle Expert) เป็นผู้ริเริ่มและสนับสนุนให้คนหันมาให้ความสำคัญเรื่องสวัสดิภาพของสัตว์มากขึ้น และมีองค์กร American Society for the Prevention of Cruelty to Animals ได้นำแนวคิดนี้ไปสานต่อกระทั่งเป็นกิจกรรมประจำปีเพื่อช่วยเหลือแมวไร้บ้านและแมวที่ถูกทารุณกรรม”

ที่มา : https://thatsmeow.com/cat-day/

 

 

แมวในวิถีปัจจุบัน

ดนตรีสำหรับแมว
              ดนตรีสำหรับแมว หรือเพลงบำบัดคลายเครียดสำหรับแมว ริเริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2559 โดย เดวิด ทาย (David Teie) นักเล่นเชลโล นักแต่งเพลง และนักวิจัยดนตรีชาวอเมริกันจาก University of Maryland ผู้มีความสนใจเรื่องดนตรีสำหรับสัตว์ ผลการศึกษาวิจัยพบว่า ดนตรีสำหรับแมวสามารถทำให้แมวแสดงพฤติกรรมทางด้านบวก และช่วยลดความเครียดของแมวได้ โดยดนตรีสำหรับแมวนี้ ถูกสร้างขึ้นจากเสียงที่แมวได้ยิน เช่น เสียงนกร้อง เสียงจากธรรมชาติ มาผสมผสานกับเสียงเชลโลเป็นท่วงทำนองที่ไม่สูงไปกว่าเสียงแมวร้องปกติ เพื่อทำให้แมวรู้สึกผ่อนคลาย และไม่รำคาญเวลาฟัง

David Teie ผู้ริเริ่มโครงการดนตรีสำหรับแมว


ตัวอย่างดนตรีสำหรับแมว https://www.musicforcats.com/

McKennaEwen, Music for cat2015.
ที่มา :
 https://www.washingtonpost.com/video/entertainment/listen-this-music-is-scientifically-proved-to-appeal-to-cats/2015/10/15/31ec6f54-6e9b-11e5-91eb-27ad15c2b723_video.html


แมวเน็ตไอดอล
              ปัจจุบันแมวมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการใช้สินค้าและบริการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก มีการสร้าง คอนเทนต์เกี่ยวกับแมวในโซเชียลมีเดียซึ่งได้รับความนิยม มีผู้ชื่นชอบและติดตามจำนวนมาก จึงเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับแมวและเจ้าของแมวในการเป็น Social media influencer และ Brand ambassador
              “นาลา” แมวพันธุ์ผสมลายสลิดผู้พลิกชีวิตของ วรีสิริ เมธาจิตติพันธ์ เจ้าของคนไทยในสหรัฐอเมริกา ที่ใช้บัญชี Instagram ชื่อ nala_cat (@nala_cat) ได้รับประกาศนียบัตรจาก Guinness World Records ว่าเป็นแมวที่มีชื่อเสียงและมีผู้ติดตามใน Instagram มากที่สุดในโลก เป็นแมวตัวแรกและตัวเดียวที่ได้เซ็นสัญญากับ Creative Artists Agency เอเย่นต์ชื่อดังที่เป็นตัวแทนให้กับดาราฮอลลีวูดชั้นนำ ได้แสดงในภาพยนตร์ ไนน์ ไลฟส์ (Nine Lives) รวมทั้งมีหนังสือของตัวเองชื่อ Nala Cat ฯลฯ 

นาลา แมวที่มีผู้ติดตาม Instagram มากที่สุดในโลก

Nala_Cat, Nala Cat.
ที่มา :
 https://www.instagram.com/nala_cat/?hl=en

              แมวที่มีชื่อเสียงและผู้ติดตามในไทยจำนวนมาก มีด้วยกันมากมายหลากหลายสายพันธุ์ สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลให้ผู้คนในสังคมใช้ชีวิตด้วยการแข่งขันและความเครียด สัตว์เลี้ยง เช่น แมว จึงได้รับความสนใจอย่างมาก ทำให้เจ้าของ (หรือนิยมเรียกว่า “ทาส”) คลายความเครียดเมื่อมีแมวมาคลอเคลีย อีกทั้งแมวยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีประสาทสัมผัสไว สามารถรับรู้และปลอบใจเจ้าของเมื่อเวลาเศร้าได้ ผู้คนจึงนิยม เลี้ยงแมวกันมากขึ้น แมวที่มีผู้ติดตามหลักแสนถึงหลักล้านในไทย ตัวอย่างเช่น

Egg family - ครอบครัวไข่ : ที่มีสมาชิกมากหลากหลายสีสัน

Egg family - ครอบครัวไข่, Egg family, 2564.
ที่มา :
 https://www.facebook.com/egggang/?locale=th_TH
 

Meeboon : แมวสองพี่น้องขวัญใจโซเชียล มีบุญและออมบุญ

Meeboon, มีบุญและออมบุญ.
ที่มา :
 https://www.facebook.com/Luckymeeboon/

Kingdom Of Tigers ทูนหัวของบ่าว : ที่มีสมาชิกครอบครัวหลากสายพันธุ์

Kingdom Of Tigers ทูนหัวของบ่าว, Kingdom Of Tigers Family, 2565.
ที่มา :
 https://www.facebook.com/kingdomoftigers/?locale=th_TH
 

เค้าเรียกผมว่าแมว : บ้านแมว Story หลากหลาย

เค้าเรียกผมว่าแมว, ครอบครัวเค้าเรียกผมว่าแมว, 2566.
ที่มา :
 https://www.facebook.com/theycallmemeaow/?locale=th_TH

ชิเอลแมวมึน : แมวหนุ่มหล่อต่างสไตล์ ชิเอลและคิรัวร์

ชิเอลแมวมึน, ชิเอลและคิรัวร์.
ที่มา
https://www.facebook.com/Cielmeowmun/?locale=th_TH


เน็ตไอดอลมาสคอตแมวและพรีเซนเตอร์แมว
              แมวมักถูกนำมาใช้เป็นมาสคอต หรือ ตัวแทนสัญลักษณ์นำโชค มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์สำหรับกลุ่มธุรกิจ องค์กร ทีมกีฬา การแข่งขันกีฬา หรืองานกิจกรรมที่สำคัญต่าง ๆ

แคน มาสคอต ซีเกมส์ 2007
จัดที่จังหวัดนครราชสีมา

   

สิงหลา จากตำนานเกาะหนูเกาะแมวของจังหวัดสงขลา มาสคอตการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 45

   

“น้องนวล” แมวพรีเซนเตอร์การประชุมเอเปค 2022

   

“เหมียวมั่น” มาสคอตของสำนักงานนโยบาย
และแผนพลังงาน

   

“สวาทแคท (Swat Cat)” สัญลักษณ์ของสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มีที่มาจากแมวสีสวาด หรือแมวโคราช

   
Olympic Council of Asia, แคน, 2007.
ที่มา :
 https://ocasia.org/games/19-nakhon-ratchasima-2007/media/?type=Mascot
อนิรุทธิ์ เอมอิ่ม, สิงขลาและสิงขร, 2559.
ที่มา : https://news.gimyong.com/article/1244
mfa_thailand, น้องนวล, 2565.
ที่มา : https://www.instagram.com/p/CjJdifyPFWi/?img_index=2
Swatcat Academy, Swatcat Academy.
ที่มา : https://www.facebook.com/SwatcatAcademy/
สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน, เหมี่ยวมั่น รวมพลังหาร 2, 2559.
ที่มา : https://www.eppo.go.th/index.php/th/petroleum/gas/link-erc-pipeline/item/11700-poster-meawmun\


คอตแมวและพรีเซนเตอร์แมวบำบัด
              การนำแมวมาช่วยในการบำบัด (Cat therapy / Feline-assisted therapy) สามารถช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี แมวถูกนำมาใช้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่กลัวสุนัข หรือไม่สามารถไปบำบัดด้วยสัตว์ใหญ่ได้ เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่มีจิตวิทยาสูง สามารถรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของคนได้ดี รู้ว่าเจ้าของต้องการขอความช่วยเหลือเมื่อไหร่ สามารถเตือนภัยให้กับเจ้าของได้
               แมวบำบัดต้องมีลักษณะดังนี้ เป็นมิตร เข้ากับคนแปลกหน้าได้ง่าย ยอมให้กอดได้ มีนิสัยที่สงบ ไม่ตกใจง่าย ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีทนต่อสิ่งกระตุ้นที่ผิดแปลกได้ดี ไม่ดุร้าย ยอมให้สวมใส่ปลอกคอ กระพรวน หรือสายจูงได้ มีการทำความสะอาดและดูแลสุขอนามัยอย่างสม่ำเสมอ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว
              กลุ่มผู้ป่วยที่สามารถใช้แมวบำบัด ได้แก่ โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคสมองเสื่อม โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน ความบกพร่องทางการเห็นหรือการได้ยิน ความบกพร่องทางสติปัญญา ออทิสติก สมาธิสั้น และผู้ป่วยจิตเวชอื่นๆ

แมวบำบัดที่คอยมอบความสุขให้กับผู้ป่วย

 
              คาเฟ่แมว หรือ Cat cafe ได้รับการบรรจุอย่างเป็นทางการในพจนานุกรมออกฟอร์ดภาษาอังกฤษ ฉบับออนไลน์ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา มีลักษณะเป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม (ทั้งของคนและแมว) มีแมวหลากหลายสายพันธุ์เป็นจุดขายเพื่อดึงดูดลูกค้า สามารถเล่นกับแมวได้ โดยผู้ใช้บริการชำระค่าบริการเป็นรายชั่วโมง บางแห่งสามารถให้ผู้ใช้บริการนำสัตว์เลี้ยงของตนเองเข้ามาใช้บริการในส่วนที่จัดให้โดยเฉพาะอีกด้วย คาเฟ่แมวจึงเป็นที่นิยมมากในปัจจุบันสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง
 

Cat Cafe Rangsit
ที่มา : https://www.facebook.com/CatcafeRangsit/  


Makura Cat Café (มาคูระ แคทคาเฟ่)
ที่มา : https://www.facebook.com/MakuraCatCafe/


Kitty Cat Cafe (คิตตี้ แคท คาเฟ่)
ที่มา : https://www.facebook.com/kittycatcafee/


Mohu Mohu Café (โมฮุโมฮุ คาเฟ่)
ที่มา : https://www.facebook.com/mohumohucafe/



เครื่องรางของขลังเกี่ยวกับแมว
              เพชรตาแมว หรือ พลอยไพฑูรย์ อัญมณีมงคลเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่าผู้ใดได้ครอบครอง จะทำให้ค้าขายดี มีโชคลาภอยู่เสมอ ตามความเชื่อของคนโบราณ เชื่อว่าแมวตาเพชรมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับแมวหนึ่งในล้านตัว ผู้ที่ได้ครอบครองจะต้องสะสมบุญบารมี ประพฤติตนเป็นคนดี และอยู่ในศีลธรรม
              ในแง่วิทยาศาสตร์อาจกล่าวได้ว่า เพชรตาแมวเกิดจากแมวที่ตาเป็นต้อหิน โดยดวงตาข้างนั้นจะมีน้ำออกในตา แม้แมวไม่เจ็บปวด แต่ตาข้างนั้นจะไม่สามารถใช้การได้ และเมื่อแมวตัวดังกล่าวตายลง ดวงตาข้างที่เป็นต้อก็จะแข็งขึ้นราวกับก้อนหิน แต่จะมีความสวยงาม แวววาว ราวกับเพชร ดังที่เรียกว่า “เพชรตาแมว”

เพชรตาแมว

เพชรตาแมว, เพชรตาแมว, 2563.
ที่มา : https://www.facebook.com/olecateye/posts/
pfbid0S8GqJ6knUuZoWXgJaT6vJqnKkowXPHhVo9r1DFsuDUZJ8nT8NoH3T44mthuunDZJl

              รกแมว เป็นเครื่องรางของขลังตามธรรมชาติ นิยมใช้ด้านเมตตามหานิยม โดยธรรมชาติแม่แมว มักจะหลบไปคลอดลูกในที่ลับตาและกินรกของตัวเองตามสัญชาตญาณของสัตว์ แต่หากแมวตัวไหนให้โชคแก่เจ้าของจะไม่กินรกเข้าไป เจ้าของสามารถเก็บรกแมวมาไว้ติดตัวเพื่อเสริมโชคลาภได้ โดยการนำรกแมวคลุกกับผงขมิ้นหรือผงแป้งโดยห้ามตัดแบ่งรกแมว และนำไปผึ่งลมจนแห้งสนิทแล้วจึงนำมาใส่กรอบไว้บูชา
              ลูกกรอกแมว เป็นเครื่องรางของขลังที่มีอานุภาพคล้ายกับกุมารทองที่ให้คุณแก่ผู้ครอบครอง ด้านเมตตามหานิยม ทำมาค้าขาย โชคลาภ ปกป้องคุ้มครอง บอกเหตุเตือนภัย ป้องกันภูตผีปีศาจ คนที่เลี้ยงลูกกรอกแมว จะต้องเป็นคนมีใจเมตตาต่อสัตว์จึงจะได้ผลดี

รกแมว                                                               ลูกรอกแมว

พระเครื่อง55, รกแมว, 2564.
ที่มา :
 https://www.พระเครื่อง55.com
พรพ่อพระเครื่อง, ลูกกรอกแมว.
ที่มา : https://www.pornpoephrakruang.com/productdetail.asp?pid=38741
 
Tags:


จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด 9,437 คน
เว็บไซต์ของเรามีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานให้กับผู้ใช้งาน ทั้งนี้ สามารถมั่นใจได้ว่าเราจะดูแลและรักษาความปลอดภัยข้อมูลของท่านเป็นอย่างดี